เมื่อไม่นานมานี้เห็นมีคนคุยกันเกี่ยวกับเรื่องแนวคิดการเขียนอัลกอลิทึมที่สามารถวัดค่าจิตใจของมนุษย์ และก็มีคนแนะนำซีรี่ย์เรื่องนี้ขึ้นมาพอดี เห็นจากชื่อเรื่องสำหรับผมที่บ้าเรื่อง psycho-pass มากๆ และเห็นชื่อเรื่องด้วยเลยสนใจขึ้นมาทันที(Person of Interest) ก็เลยไปสรรค์หามาดูปรากฏว่าไม่ผิดหวังจริงๆ ที่บอกว่า”สุดยอด” นั้นไม่เกินจริงไปเลยครับ(ในมุมมองของผมนะ) จากนี้ก็จะขอเขียนแนะนำแนวเรื่องคร่าวๆ โดยพยายามไม่ให้สปอยเนื้อหาก็แล้วกันครับ
Person of Interest
person of interest นั้นเป็นเรื่องราวของคนกลุ่มหนึ่งที่รู้อนาคตเกี่ยวกับการเกิดอาชญากรรมในที่ต่างๆ (ส่วนใหญ่จะอยู่ในนิวยอร์ก) และต้องการจะช่วยเหลือบุคคลเหล่านั้น ซึ่งอาชญากรรมที่เกิดขึ้นแทบจะทั้งหมดนั้นผู้เสียหายจะต้องตาย โดยตัวดำเนินเรื่องทั้งหมดในเรื่องนี้คือระบบคอมพิวเตอร์ที่ถูกเรียกว่า “The Machine” ซึ่งเป็นระบบที่เดิมทีนั้นตั้งใจจะใช้เพื่อหาการก่อการร้ายในสหรัฐอเมริกา แต่ระบบนี้ทำได้มากกว่านั้นคือการตรวจหาอาชญากรรมในทุกรูปแบบไม่ว่าจะเล็กหรือใหญ่ โดยอาศัยข้อมูลทุกรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นการโทรศัพท์ อีเมล กล้องวงจรปิด ไมค์ GPS ข้อมูลอาชญากรรมต่างๆ ว่าง่ายๆ คือการสอดแนวในทุกรูปแบบที่ทำได้ มาวิเคราะห์หาการเกิดอาชญากรรมขึ้นนั่นเอง ในตอนเริ่มต้นเรื่องมานั้น The Machine เป็นของรัฐบาลสหรัฐโดยรัฐบาลนั้นจะดำเนินการเพียงแค่กับกรณีเรื่องการก่อการร้ายเท่านั้น(ข้อมูลที่ถูกส่งถึงรัฐบาลก็มีแค่เกี่ยวกับการก่อการร้ายเท่านั้นเหมือนกัน)เนื่องจากการดำเนินการในทุกๆ เรื่องนั้นจะเกิดการสงสัยถึงการล่วงรู้อนาคตได้ จากจุดนี้นั้นทำให้เรื่องนี้เกิดขึ้น
Harold Finch ตัวละครหลักที่ดำเนินเรื่องเป็นคนสร้าง The Machine ในตอนแรกนั้น Finch มีความเชื่อว่าเขาหรือรัฐบาลไม่สามารถเข้าไปช่วยเหลือทุกคนที่ตกอยู่ในอันตรายได้ และ The Machine นั้นมีไว้เพื่อตรวจหาการก่อการ้ายระดับชาติเท่านั้น จึงมีการเขียนคำสั่งให้ The Machine ลบข้อมูล”ผู้ที่ไม่เกี่ยวข้อง”(หรือคนที่ตกอยู่ในอันตราย,ผู้บงการที่ไม่เกี่ยวข้องกับการก่อการร้าย)ทุกๆ วัน ภายหลังมีเหตุการณ์บางอย่างเกิดขึ้นทำให้ Finch เกิดตระหนักว่าสิ่งที่เขาคิดมาทั้งหมดนั้นไม่ถูกต้อง เมื่อมีโอกาสที่จะสามารถช่วยเหลือคนได้ ก็ต้องทำอย่างสุดความสามารถ เขาจึงรับข้อมูลจาก The Machine มาโดยสื่งที่เขาได้รับมีเพียงเลขบัตรประกันสังคมเท่านั้น นอกจากนั้นจำเป็นต้องสืบเอาเองทั้งหมด โดยที่เขาไม่รู้แม้แต่ว่าคนที่เขากำลังตามสืบอยู่นั้นเป็นผู้เคราะห์ร้าย หรือผู้บงการกันแน่ Finch ไม่มีทักษะการยิงปืน,ต่อสู้เลยแม้แต่น้อย จึงทำให้เขาต้องหาผู้ช่วยที่มีความสามารถในกับทำงานในด้านการปฏิบัติการจริงมาช่วย โดยปกตินั้น Finch จะเป็นคนสืบหาข้อมูลต่างๆ ทั้งจากการหาข้อมูลที่เปิดเผยอยู่บนอินเทอร์เน็ต หรือแม้กระทั่งข้อมูลที่ไม่เปิดเผยจำเป็นต้องแฮกค์เข้าไปดู เขามีความรู้ด้านคอมพิวเตอร์ ระบบเครือข่าย อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ทุกอย่างสูงมากๆ อนึ่ง Finch มีความเป็นส่วนตัวสูงมากๆ อีกด้วยเช่นกัน แม้ผ่านไปเกือบ 70 ตอนยังไม่มีใครรู้ว่าหลังจากเวลาที่เขาทำงานแล้วเขาไปไหน อยู่ที่ไหนอย่างไร แม้แต่นามสกุลจริงๆ เขาก็ยังไม่มีใครรู้เช่นกัน
John Reese อดีตเจ้าหน้าที่ CIA เป็นพระเอกของ Person of Interest เป็นคนที่มีทักษะการปฏิบัติการสูงมาก เมื่อเริ่มต้นเรื่องเขาไม่ได้ทำงานให้กับรัฐบาลอีกต่อไปแล้ว และถูกรัฐบาลคิดว่าเสียชีวิตแล้ว และ Finch ที่กำลังหาผู้ร่วมงานอยู่ก็ได้ช่วยเหลือเขาโดยประกันตัวออกจากสถานีตำรวจเนื่องจากไปมีเรื่องกับกลุ่มอันตพาร(หลังจากนั้นเป็นต้นมาเขาก็ถูกตามล่าจากตำรวจ) ในตอนแรกนั้น Reese ไม่ได้ตอบตกลงทำงานช่วยเหลือคนร่วมกับ Finch ในทันทีเนื่องจากไม่เชื่อเรื่องที่ว่าจะสามารถล่วงรู้อนาคตได้(ตอนแรก Finch ไม่ได้บอกเกี่ยวกับ The Machine) แต่ภายหลัง Finch ได้ชี้ให้เห็นว่าเขาสามารถให้โอกาสในการช่วยเหลือคนที่อยู่ในอันตรายได้ ทำให้ทั้งสองได้ทำงานร่วมกัน Reese นั้นทำงานช่วยเหลือคนใน New York จนได้รับฉายาว่าชายในชุดสูท เนื่องจากการต่อสู้กับอาชญากรทั้งหลายนั้นหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะต้องใช้ปืน หรือบางครั้งถึงขั้นมีการตายเกิดขึ้นเขาจึงถูกตำรวจตามล่าอีกด้วย โดยการทำงานของเขาเมื่อ Finch ได้รับหมายเลขประกันสังคมของ “ผู้ที่ไม่เกี่ยวข้องมา” ก็จะทำการสืบหาชื่อที่อยู่และให้ Reese เขาไปสอดแนมโดยมีการโคลนโทรศัพท์เพื่อดักฟัง ย่องเข้าบ้านเพื่อก็อบข้อมูลทั้งหมดในคอมพิวเตอร์ เพื่อสืบหาว่าใครเป็นภัยคุกคามเจ้าของหมายเลข หรือเจ้าของหมายเลขมีเป้าหมายในการฆ่าใคร การทำงานที่ยุ่งยากเช่นนี้เกิดจากการที่ The Machine ถูกโปรแกรมให้ไม่เปิดเผยข้อมูลอื่นใดเลยนั่นเอง
สำหรับเรื่อง Person of Interest นั้นการดำเนินเรื่องส่วนใหญ่จะอยู่ใน New York ถึงแม้ว่าเมื่อดูๆ ไปแล้วจะรู้ว่า The Machine นั้นสอดแนมแทบทั้งโลก แต่เป้าหมายในการปกป้องคนนั้นยังอยู่ที่คนอเมริกาอยู่ดี
สำหรับใครที่อ่านแล้วอยากไปหาดู ผมขอแนะนำให้ไปโหลดบิทได้ที่ Kickasstorrent และโหลดซับไทยจาก thaisubtitle.com โดยทำการเปลี่ยนชื่่อซับให้ตรงกับชื่อไฟล์ก็จะสามารถดูได้แล้ว โดยตอนนี้ออกมาแล้วทั้งหมด 3 season 68 ตอน โดย season ที่ 4 จะเริ่มฉายประมาณเดือนสิงหาคมครับ
บทความนี้ขอจบเพียงแค่นี้ครับ หวังว่าจะมีคนได้อ่านและสนใจเรื่องนี้มากขึ้นนะครับ ที่แน่ๆ ขอรับรองว่าสนุกกว่าละครไทยเยอะมากครับ 😀
